Scientology ลัทธินี้ “แรงส์ ! “


    ไซแอนโทโลจี (Scientology) เป็นลัทธิความเชื่อหนึ่งที่ชี้นำผู้คนไปสู่การเข้าใจจิตวิญญาณตามธรรมชาติของตัวเอง ความสัมพันธ์ต่อตัวเอง ครอบครัว กลุ่มเพื่อนมนุษย์ สิ่งมีชีวิตบนโลก รวมไปถึงจักรวาล ก่อตั้งขึ้นโดย รอน ฮับบาร์ด นักประพันธ์นิยายชาวอเมริกัน เมื่อปี 1952 หลังจากที่เขาเขียนบทความเรื่องไดอานาทิค ขึ้นมา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาทางจิตใจ และวิเคราะห์เจาะลึกย้อนไปในอดีต เพราะเชื่อว่าความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจล้วนแล้วแต่เป็นผลจากความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังลึกโดยไม่รู้ตัวแทบทั้งนั้น นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงไปถึงจักรวาล จิต และการเข้าสู่สภาวะอนันต์หลังเสียชีวิตด้วย

    โดย รอน ฮับบาร์ด ได้บัญญัติคอร์สการเคลียร์โปรแกรมเพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ขึ้นมาเอง หลังจากที่เขาได้ทดลองเรียนรู้ด้วยตนเองแล้ว ซึ่งการฟื้นฟูจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ตามแนวทางของรอน ฮับบาร์ด นี้ ถูกอ้างว่าเป็นวิธีที่สามารถบำบัดรักษาได้ทั้งความเจ็บป่วยทางด้านจิตใจ ไปจนถึงโรคทางร่างกายต่าง ๆ เช่น มะเร็ง ไขข้ออักเสบ อาการติดยา เป็นต้น แต่ผู้ที่จะเข้าปฏิบัติตามคอร์สของรอน ฮับบาร์ด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย แถมยังมีหลายคอร์ส เรียกว่ากว่าจะทำการชำระล้างฟื้นฟูจิตวิญญาณได้ตามแนวทางของรอน ฮับบาร์ด ก็ต้องเสียใช้จ่ายสูงสุดถึงหลักล้านเลยทีเดียว ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการบำบัดฟื้นฟูจิตใจและความเจ็บป่วยทางร่างกายเฉกเช่นเดียวกับที่จิตแพทย์ทั่วๆ ไปทำ แต่มันมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะลัทธิไซแอนโทโลจีจะมีการปลูกฝังความเชื่อบางอย่างตามแบบของรอน ฮับบาร์ด ไปพร้อมๆ กับการบำบัดด้วย นอกจากนี้ยังมีการล้างสมองสาวกให้ต่อต้านการแพทย์และการรักษาทางจิตวิทยาสมัยปัจจุบัน และต่อต้านพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์บางอย่าง รวมทั้งให้สาวกตัดขาดจากญาติพี่น้องที่โจมตีลัทธินี้ด้วย

    คราวนี้มาดูประเด็นของสมาคม ซี ออร์แกไนเซชั่น (Sea Organisation) ที่สื่อหลายแห่งระบุว่า ทอม ครูซ จะพาหนูน้อยซูริ ไปเข้ารีตตามแบบไซแอนโทโลจีกันบ้าง สมาคมนี้ เป็นสมาคมที่ลัทธิไซแอนโทโลจีสร้างขึ้นเพื่อปกป้องและรับใช้ตนเองโดยเฉพาะ โดยถ้าหากใครได้เข้ามาแล้ว ก็จะมีข้อผูกมัดว่าต้องรับใช้ลัทธิเป็นเวลา 1 พันล้านปี แม้ตายไปก็ต้องกลับมารับใช้ ซึ่งเด็กๆ ที่เข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมจะไม่ได้รับการศึกษาตามระบบทั่วไป แต่จะถูกปลูกฝังให้มีแนวความคิดเคร่งครัดตามแบบไซแอนโทโลจี หากพยายามออกจากสมาคม จะถูกเก็บค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ทางลัทธิยังมีการแนะไม่ให้สมาชิกมีครอบครัวหรือทายาทเพื่อรับใช้ลัทธิอย่างเต็มที่
    อย่างไรก็ดี แม้ว่าลัทธิไซแอนโทโลจีจะถูกรับรองให้เป็นศาสนาหนึ่ง ซึ่งทางลัทธิเองอ้างว่ามีสมาชิกทั่วโลกถึง 12 ล้านคน แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนก็ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านลัทธินี้อยู่หลายครั้ง และตกเป็นข่าวฉาวมานับไม่ถ้วนเช่นกัน แม้ว่าลัทธินี้จะพยายามดำเนินการทุกอย่างอย่างเป็นความลับและระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นข่าวก็ตาม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การตกเป็นข่าวฉาวของลัทธินี้ เกิดจากสมาชิกเองที่เกิดไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปฎิบัติตนของลัทธิ จึงออกมาแฉถึงความเชื่อที่ขัดกับความถูกต้องหลาย ๆ อย่างของลัทธินี้ ทั้งในเรื่องของการหลอกลวงเอาเงินจากสมาชิก การห้ามสมาชิกคบหาสมาคมกับญาติพี่น้องตัวเองที่ต่อต้านลัทธิ การควบคุมสาวกไม่ให้ตีจากหรือออกจากลัทธิ และการอ้างวิทยาศาสตร์จอมปลอมที่เกิดจากความคิดของรอน ฮับบาร์ด เองที่ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มวิชาชีพใด ๆทั้งนี้ สำหรับเหตุผลที่ทำให้ลัทธินี้ค่อนข้างจะโด่งดังโดยเฉพาะในวงการฮอลลีวูด ก็เพราะบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการมากมายนับถือลัทธินี้ ไม่ว่าจะเป็น ทอม ครูซ, จอห์น ทราโวตา, วิลล์ สมิธ, แคเธอรีน เบล, เบ็ค แฮนเซน เป็นต้น ซึ่งการที่คนดังเหล่านี้ประกาศตัวเองว่านับถือลัทธิไซแอนโทโลจีนี้ ก็ถือว่าเป็นการช่วยโปรโมทลัทธินี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว จนเกิดเป็นกระแสข่าวระดับโลก

    นอกจากนี้ผู้บริหารลัทธิไซแอนโทโลจี ได้ทุ่มทุนซื้อของขวัญราคาแพงให้ทอม ครูซ ที่รวมถึงการโค่นต้นยูคาลิปตัสยักษ์ ที่สำนักงานใหญ่ของลัทธิในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเอามาทำปากกาให้กับครูซ ที่เป็นสมาชิกที่โด่งดังที่สุดของลัทธิ และยังเอาบางส่วนมาตกแต่งรถโฟร์วีลให้เขาอีกด้วยการปรนเปรอให้กับ ซูเปอร์สตาร์วัย 50 ปี ยังรวมถึงการสร้างโรงเก็บเครื่องบินพร้อมสำนักงานหรูหรา และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เช่น รถจักรยานยนต์ที่ส่วนประกอบทำด้วยนิคเกิลวาววับ และรถโค้ชหรูที่มีชื่อว่า ซิลเวอร์ สกรีน ที่ครูซตั้งเงื่อนไขให้มีลิ้นชักเอาไว้เก็บรองเท้าแตะเอาไว้ให้คนที่ขึ้นไปบนรถเปลี่ยนรองเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้พรม ที่ปูรถเปื้อนรองเท้าสกปรกเรื่องนี้ ถูกเปิดโปงหลังจากมาร์ตี้ รัธบัน อดีตสมาชิกระดับสูงของลัทธิไซแอนโทโลจี ที่ออกจากลัทธิไปเมื่อปี 2547 นำบันทึกช่วยจำมาเผยแพร่เมื่อปี 2548 และยังมีข้อมูลลับ ระบุด้วยว่าครูซ ยืนยันว่า เดวิด มิสคาวิจ เพื่อนสนิทและผู้นำลัทธิวัย 52 ปี ที่เขาเรียกว่าเป็นประธานของบอร์ดบริหารลัทธิ หรือซีโอบี จะต้องทำตัวเป็นตัวอย่างด้วยครูซ ยังไม่ยอมให้ใครขึ้นไปบนรถโค้ช นอกจากผู้ช่วยส่วนตัว ส่วนจอห์น บรูโซ อดีตสมาชิกอีกคนของลัทธินี้ เปิดเผยว่า เขาได้รับค่าจ้างแค่สัปดาห์ละ 30 ปอนด์ เพื่อจัดทำของขวัญและตกแต่งรถฟอร์ด เอ็กซ์เคอร์ชั่น และรถจักรยานยนต์สุดหรูให้กับครูซ ครูซ ถูกเคที่ โฮล์ม ภรรยาวัย 33 ปี ยื่นฟ้องหย่าเนื่องจากเธอไม่ต้องการให้ซูริ บุตรสาววัย 6 ขวบ ต้องเติบโตในสภาพแวดล้อมของลัทธิไซแอนโทโลจี

    เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2555  ได้มีประเด็นข่าวการหย่าร้างระหว่าง “ทอม ครูซ” และ “เคที่ โฮล์มส์” ห่างหายไปจากหน้าสื่อมวลชนยังไม่ทันจะพ้นเดือน ล่าสุด ก็มีข่าวของ “ทอม ครูซ” ให้ฮือฮากันอีกแล้ว เมื่อสื่อต่างชาติกำลังจับตามอง “ทอม ครูซ” กับสาวคนใหม่ แถมหล่อนเป็นสาวผู้คลั่งลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ตั้งแต่เด็กอีกด้วย โดยสาวสวยคนใหม่รายนี้ มีชื่อเสียงเรียงนามว่า “โยลันดา เปโซราโร” ดารานางแบบสาวชาวอเมริกันวัย 27 ปี ผู้คลั่งลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ซึ่งว่ากันว่ามีแนวโน้มที่จะคบหาดูใจกับ “ทอม ครูซ” อีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยออกเดทกันมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปี 2004 ซึ่งตอนนั้น “ครูซ” เพิ่งจะเลิกรากับ “นิโคล คิดแมน” ดาราสาวเจ้าบทบาทชื่อดัง แต่ต้องห่างหายกันไปเสียก่อน ก่อนที่ “ครูซ” จะมาคบหาและแต่งงานกับ “เคที่ โฮล์มส์”

    รายงานระบุว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 “ทอม ครูซ” และ “โยลันดา เปโซราโร” (Yolanda ” Yolie ” Pecoraro) ได้พบกันครั้งแรกในงานเปิดศูนย์ลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ในสเปน ขณะนั้น “เปโซราโร” มีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น แต่เมื่อ “ครูซ” ได้พบเธอก็ตกหลุมรักทันที จากนั้นทั้งคู่ก็ได้พูดคุยและคบหากันในช่วงสั้น ๆ โดยมีข่าวว่า “ครูซ” ได้จ่ายค่าคอร์สที่ศูนย์ลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ของคนดังในฮอลลีวูดให้กับ “เปโซราโร” และยังเคยออกเดทแบบสองคู่ดูฟุตบอลในสเปนร่วมกับคู่ของ “เดวิด เบ็คแฮม” และ “พอร์ช สไปซ์” แต่หลังจากนั้นข่าวการกุ๊กกิ๊กกันของ “ครูซ” และ “เปโซราโร” ก็ห่างหายไป อย่างไรก็ดี แม้จะมีข่าวลือว่าทั้งคู่มีแนวโน้มจะกลับมาปลูกต้นรักกันอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่สื่อต่างประเทศตอนนี้ ดูเหมือนจะเชียร์ให้ “ครูซ” และ “เปโซราโร” คบหากันให้ได้ เพราะเห็นว่าทั้งคู่มีความคิด และความเชื่อทางเดียวกัน (“เปโซราโร” เข้ารีต ลัทธิ “ไซแอนโทโลจี” ตั้งแต่อายุ 13 ปี) แถมเคยเดทกับ “ครูซ” มาก่อนหน้านี้ (ถ้าคบกันจริงๆ ก็เป็นคู่ที่ลงตัวมากที่สุดเลยทีเดียว

ที่มา : กะปุก และผู้จัดการ

เพราะอะไร เคธี่ โฮล์มส์ ไม่อยากให้ลูกสาวเข้าลัทธิ ไซแอนโทโลจี (Scientology) ชมได้ที่นี่